หากพูดถึงเกมที่ก้าวไปไกลมากแบบไม่คาดคิดนั้นตัว เกมเมทัลเกียร์ น่าจะเป็นหนึ่งนั้นแน่นอน จากเดิมที่เปิดตัวออกมาในปี 1987 ลงในเกมอาร์เคดหรือเกมตู้ต่างๆ ก่อนจะถูกดัดแปลงมาลงในคอนโซลอย่างนินเทนโด้จนเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา ก่อนที่ต่อมาจะมีเกมดังอย่างโซลิดที่เปลี่ยนไปได้รับความนิยมในเครื่องเกมเพลย์สเตชั่นแทน ซึ่งนับว่ามีความก้าวกระโดดของตัวเกมเป็นอย่างมาก รวมถึงการขยายไปจนถึงเครื่องเอกซ์บอกซ์ คอมพิวเตอร์และเพลย์สเตชั่นสามกับวิสต้าในเวลาต่อมา เกมเมทัลเกียร์ ผู้เล่นก็จะมีอาวุธที่จำกัดและสามารถเก็บเพิ่มเติมได้ในฐานทัพของศัตรู                 รูปแบบเกมของเมทัลเกียร์ที่ออกแบบโดยฮิเดโอะ โคจิม่าแห่งโคนามินั้นผู้เล่นจะได้นายทหารที่มีชื่อลับว่าโซลิดสเนก ที่จะต้องเข้าไปทลยรังของศัตรูโดยไม่ให้มีคนจับได้ ถ้าหากมีคนจับได้นั้นก็จะมีคำเตือนขึ้นมาบนหน้าจอ จนทำให้ทางสเน็กจะต้องหนีออกจากฐานให้ไวที่สุด โดยวิธีการหนีจะมีถึงสองแบบอย่างการเจอกับเครื่องหายตกใจเพียงตัวเดียวนั้นผู้เล่นก็จำเป็นต้องหนีออกไปจากหน้าจอเท่านั้น แต่หากมีเครื่องหมายสองตัวนั้น ผู้เล่นจะต้องจัดการกับศัตรูโดยที่มีจะกำลังเสริมตามมาช่วยหรือจะหนีออกด้านนอกและเข้าไปยังฐานของหัวหน้าได้เช่นกัน                 ในจุดเริ่มต้นของเกมเมทัลเกียร์นั้นทางผู้เล่นก็จะมีอาวุธที่จำกัดและสามารถเก็บเพิ่มเติมได้ในฐานทัพของศัตรู ซึ่งอาวุธบางตัวจำเป็นต้องใช้เพื่อทำลายกำแพงไฟฟ้าหรือกำแพงล่องหนได้เช่นกัน ส่วนฐานของศัตรูนั้นจะมีถึงสามอาคารและมีหลายชั้นด้วยกัน โดยผู้เล่นจำเป็นต้องใช้คีย์การ์ดเพื่อปลดล็อคไปยังห้องต่อไปและสามารถเลื่อนยศได้อีกด้วย ซึ่งในเวอร์ชั่นของเกมนินเทนโด้นั้นจะสามารถติดต่อกับหัวอย่างบิ๊กบอสได้อีกด้วย                 เรียกได้ว่าเกมเมทัลเกียร์นั้นมีความซับซ้อนอย่างมากเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ของคอนโซลนินเทนโด้ ทั้งรูปแบบการเล่นที่มีความซับซ้อนและลูกเล่นต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นของโคนามีในเวลานั้น รวมถึงฉากต่างๆ ที่มีหลายระดับและการปราบศัตรูหรือลดขั้นเมื่อมีทางตัวประกันถูกฆ่าไป ซึ่งทำให้เกมนี้ประสบความสำเร็จและมีการต่อยอดออกมาในอนาคตนั่นเอง ฝากกดติดตามเว็บไซต์ อัพเดทข่าวสารแวดวงเกม และเกมแนะนำที่เหมาะเล่นในวันหยุด กราเดียส เกมขับยานฝ่าด่านปะทะเหล่าเอเลี่ยนจากค่ายดังอย่างโคนามิ